ข้อสอบปลายภาค
คำสั่ง ข้อสอบมีทั้งหมด 7 ข้อ
ให้นักศึกษาทำทุกข้อ ห้ามลอกกันเขียนคำตอบโดยใช้สำนวนเหมือนกันถือว่ามิใช่ความคิดขอนักศึกษาเอง
ปรับให้ตกทั้งคู่ ข้อละ 10 คะแนน
1.
กฎหมายทั่วไปกับกฎหมายการศึกษา มีที่มาความเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร
อธิบายพร้อมทั้ง ยกตัวอย่างประกอบอย่างย่อ
ๆ ให้ได้ใจความพอเข้าใจ
ตอบ เหมือนกัน
เพราะกฎหมายคือ กฎที่สถาบันหรือผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐตราขึ้น
หรือที่เกิดขึ้นจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือ เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ
เพื่อใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม
หรือเพื่อกำหนดระเบียบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ
ซึ่งกฎหมายทั่วไปและกฎหมายการศึกษา ก็เกิดจากการตั้งกฎของสถาบันหรือผู้มีอำนาจสูงสุด
เพื่อเป็นการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ รวมทั้งด้านการศึกษา
การเป็นอยู่การดำรงชีวิตต่างๆ และการทำตามกฎระเบียบที่กฎหมายได้กำหนดไว้
หากมีการฝ่าฝืนก็จะต้องได้รับการลงโทษ ตามกฎหมายกฎระเบียบที่วางไว้
และสิ่งใดที่ไม่เป็นกฎเกณฑ์ หรือข้อบังคับมาตรฐานความประพฤติในสังคม
สิ่งนั้นก็จะไม่ใช่กฎหมาย
2.
รัฐธรรมนูญที่ว่าด้วยการศึกษา มีสาระหลักที่สำคัญอย่างไร
ในประเด็นอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับ
การศึกษา ยกตัวอย่างประกอบ พอเข้าใจ (รัฐธรรมนูญตั้งแต่แต่ฉบับแรกถึงปัจจุบัน
(พ.ศ.2550)
ตอบ ประเด็นที่เกี่ยวข้องคือ
การศึกษาทางเลือก การเรียนรู้ด้วยตนเองและตลอดชีวิตย่อมได้รับการคุ้มครองและส่งเสริมจากรัฐ
ตัวอย่างเช่น การจัดการศึกษาขององค์กรวิชาชีพหรือเอกชน การศึกษาทางเลือก
การเรียนรู้ด้วยตนเอง เป็นต้น
จะต้องได้รับความคุ้มครองและมีการส่งเสริมที่เหมาะสมจากรัฐด้วยและ บุคคลย่อมมีเสรีภาพในทางวิชาการ
การศึกษาอบรม การเรียนการสอน การวิจัย
และการเผยแพร่งานวิจัยตามหลักวิชาการย่อมได้รับการคุ้มครอง ทั้งนี้
เท่าที่ไม่ขัดต่อหน้าที่ของพลเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน นอกจากนี้ยังมีสาระที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาแทรกอยู่ในส่วนต่างๆอีกหลายส่วน
3.
พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ มีกี่มาตรา และมีความสำคัญอย่างไร
และประเด็นหรือมาตราใดที่ผู้ปกครองต้องปฏิบัติและต้องยึดถือปฏิบัติ
ตอบ มีทั้งหมด 20 มาตรา มีความสำคัญคือ ให้เด็กได้รับการศึกษาในภาคบังคับ โดยให้ผู้ปกครองนั้นนำเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาอย่างถูกต้อง
ประเด็กที่ผู้ปกครองต้องปฏิบัติและต้องยึดปฏิบัติ
ได้แก่
มาตรา
6 ให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา เมื่อผู้ปกครองร้องขอ ให้สถานศึกษามีอำนาจผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้ ทั้งนี้
ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด
มาตรา
13
ผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 6 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
มาตรา
15 ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร กระทำด้วยประการใด ๆ
อันเป็นเหตุให้เด็กมิได้เรียนในสถานศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
4. ท่านเข้าใจว่า
หากมีใครเข้ามาปฏิบัติการสอนในโรงเรียนที่เปิดการสอนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กรณีสอนทั้งปีที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพครูนั้น สามารถมาปฏิบัติการสอนได้หรือไม่
ถ้าไม่ได้มีความผิดหรือบทกำหนดโทษอย่างไร
ถ้าได้จะต้องกระทำอย่างไรมิให้ผิด ตามพระราชบัญญัตินี้
ตอบ ตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๔๖ กำหนดไว้ห้ามมิให้ผู้ใดแสดงด้วยวิธีใดๆให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิหรือพร้อมจะประกอบวิชาชีพโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากคุรุสภาและห้ามมิให้สถานศึกษารับผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตเข้าประกอบวิชาชีพควบคุมในสถานศึกษา
ถ้าฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน1ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคุรุสภาเนื่องจากเหตุผลและความจำเป็นของสถานศึกษาในการพัฒนาการศึกษาซึ่งต้องใช้บุคคลเข้าประกอบวิชาชีพเพื่อจัดการเรียนการสอนด้วยเหตุที่ไม่สามารถสรรหาผู้ที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเข้ามาดำเนินการสอนได้ ผู้ที่จะขอเข้าประกอบวิชาชีพครู โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้๑. มีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๐ ปี๒. มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา หรือเทียบเท่า๓. ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในมาตรา
๔๔ แห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ เงื่อนไขการอนุญาต
๓.๑ สถานศึกษาชี้แจงเหตุผลความจำเป็น
หรือความขาดแคลน ต้องรับบุคคลเข้าประกอบวิชาชีพครู
๓.๒
สถานศึกษาจะต้องแนบประกาศการรับสมัครและการสรรหาบุคคลเข้าประกอบวิชาชีพครู
๓.๓ สถานศึกษาจะต้องแนบคำสั่งของคณะกรรมการของสถานศึกษาในการคัดเลือกบุคคลเข้าประกอบชาชีพครู(พอสังเขป)
5. สมบัติ
เป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ประพฤติผิดกระทำทารุณกรรมต่อเด็กหรือเยาวชน
หากเราพิจารณาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 จะต้องทำอย่างไร และมีบทลงโทษอย่างไร
ตอบ สมบัติมีความผิดตามมาตราที่ 26
ตามที่บัญญัติว่า 1.กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
อาจโดนลงโทษจำคุกและปรับหนักขึ้น
ซึ่งก็มีครูเคยถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจากกรณีตบหน้าและชกท้องเพียงแต่ศาลปราณีให้รอการลงโทษไว้
ซึ่งหากไม่รอการลงโทษก็จะถูกจำคุกจริง
ผิดวินัยในข้อหากระทำผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุก เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
อาจถูกปลดออกหรือไล่ออกจากราชการ
และผู้ปกครองนักเรียนยังมีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งได้ด้วย
6. ช่วงที่นักศึกษาไปทดลองสอนที่โรงเรียนเทอม 2 และในเทอมต่อไป นักศึกษาเข้าไปทดลองสอนจริง
นักศึกษาคิดว่าจะนำกฎหมายการศึกษาไปใช้โดยกำหนดคนละ 2 ประเด็นที่คิดว่าจะนำกฎหมาย ไปใช้ได้
พร้อมยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ มาตรา ๖
การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ
สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ดี
และมีความสุข เราสามารถนำไปใช้ในการออกทดลองสอนได้โดย การจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้ร่วมทำกันเป็นกลุ่ม
ให้นักเรียนสามารถใช้ความคิดในการแก้ปัญหา
แลละสร้างความสามัคมัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ ไม่เห็นแก่ตัว
มีความรับผิดชอบในหน้าที่ขอตนเอง สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
และงานนั้นก็ประสบผลสำเร็จ
มาตรา ๒๒
การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนา ตนเองได้
และยึดผู้เรียนให้มีความสำคัญที่สุด
กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนา ตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพของผู้เรียนเอง
เราจะจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนได้ร่วมกิจกรรมในด้านการคิดให้มากขึ้น
และนักเรีนได้มีความรู้ความสามารถในการดำรงชีวิต
7. ให้นักศึกษาสะท้อนความคิดการใช้
เว็บล็อก (weblog) ในการนำมาใช้จัดการเรียนการสอนวิชานี้
พอสังเขป
ตอบ การใช้เว็บบล็อกในการสอนวิชานี้ ทำให้นักเรียนสามารถใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
ฝึกนักเรียนให้มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้อยู่ตลอดเวลา แม้อยู่นอกห้องเรียน เป็นการสอนที่ฝึกนักเรียนให้แสวงหาความรู้ได้เอง ได้ดีมากและทำให้นักเรียนได้รับความรู้ทางด้านเทคนิคการใช้เพิ่มขึ้น
และทำให้นักเรียนได้ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่